เปลี่ยนคอนโดมือสองให้เหมือนใหม่ง่าย ๆ เพียง 7 ขั้นตอน
By propso 21 มี.ค. 2565 ข่าวสาร
เปลี่ยนคอนโดมือสองให้เหมือนใหม่ง่าย ๆ เพียง 7 ขั้นตอน!
วิถีชีวิตในปัจจุบันทำให้หลาย ๆ คนเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ มากขึ้น พี่ ๆ บางคนอยากจะซื้ออสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดเอาไว้เพื่ออยู่อาศัย แต่ก็ไม่อยากซื้อคอนโดใหม่เพราะมีราคาสูง จะว่าไปคอนโดมือสองก็ไม่แพงมาก ยิ่งอยู่ในทำเลทอง เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ตัวเลือกนี้ก็ดีไม่เบาเลย
แต่พี่ ๆ คนที่ไหนกำลังคิดจะซื้อคอนโดมือสองอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังเล็กน้อย นอกจากจะต้องประเมิณภาพรวมสภาพตัวอาคารและการดำเนินการของนิติบุคคลอาคารชุดนั้น ๆ ว่าดีหรือไม่แล้ว ก็จำเป็นต้องรู้ “สิ่งที่ต้องปรับปรุง” ก่อนเข้าอยู่ด้วยเช่นกัน เพื่อคำนวณต้นทุนในการปรับปรุงก่อนตัดสินใจซื้อ
สำหรับการปรับปรุงคอนโดนั้น แน่นอนว่าเจ้าของห้องมีสิทธิ์ปรับปรุงได้เฉพาะภายในห้องชุดของตนเองเท่านั้น ไม่สามารถปรับปรุงตัวอาคาร หรือทาสีใหม่บริเวณหน้าห้องชุดและรอบห้องชุดได้ เพราะผนังรอบห้องชุดถือเป็นสิทธิ์ร่วมของโครงการที่นิติบุคคลจะเป็นผู้อนุมัติให้ดำเนินการ วันนี้น้อง Propso ได้นำ 7 ขั้นตอนการปรับปรุงคอนโดมือสองให้เหมือนใหม่ง่าย ๆ มาให้พี่ ๆ แล้วค่ะ
1.ทาสีใหม่ / เปลี่ยนวอลล์เปเปอร์
การปรับปรุงในส่วนนี้เรียกได้ว่าช่วยเนรมิตห้องชุดให้เป็นโฉมใหม่ได้ โดยถ้าเป็นห้องชุดที่ติดวอลล์เปเปอร์อยู่แล้ว อาจจะมีทางเลือกเดียว นั่นคือ ต้องเลือกวิธีปรับโฉมด้วยการเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ใหม่เท่านั้น เพราะถ้าลอกวอลล์เปเปอร์เก่าแล้วทาสีทับ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่นัก การติดวอลล์เปเปอร์ใหม่จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ขั้นตอนการติดวอลล์เปเปอร์จะไม่ยุ่งยากเท่าขั้นตอนการทาสี หากเราไม่ทาเอง การจ้างช่างมาทาก็จะทำให้เราเพิ่มค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเลือกติดวอลล์เปเปอร์ เพราะส่วนใหญ่จะมีช่างบริการติดให้เมื่อเราสั่งซื้อ และไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น ติดเสร็จก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที นอกจากนี้ยังมีวอลล์เปเปอร์หลายรูปแบบ หลากหลายราคาให้เลือกตามงบประมาณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของพี่ ๆ ด้วยค่ะ
2.ผ้าม่านในห้องชุด
กรณีที่เราซื้อคอนโดมือสองนั้นจะมีผ้าม่านติดมาด้วย น้อง Propso แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ เพราะอาจมีปัญหาเรื่องผ้าม่านอมฝุ่นได้ ยิ่งคอนโดมีอายุเยอะ ผ้าม่านก็ยิ่งอมฝุ่นมาก และราวผ้าม่านหากยังแข็งแรงใช้งานได้ เพียงแค่ทำความสะอาดก็เรียบร้อย เปลี่ยนแค่ผ้าม่านก็เพียงพอค่ะ
ในปัจจุบันผ้าม่านมีให้เลือกหลายหลายระดับ หลายสไตล์ และหลายราคา เราสามารถเลือกผ้าม่านที่เราถูกใจได้ด้วยงบราคาไม่แรง
3.ฟิล์มกันแดดในห้องชุด
ห้องชุดบางแห่งที่ติดผ้าม่านแล้วจะไม่ค่อยติดฟิล์มกันแดด ยิ่งถ้าห้องชุดนั้นไม่ได้อยู่ทิศตะวันตกที่รับแดดช่วงบ่ายเต็ม ๆ ก็จะไม่นิยมติดฟิล์มกันแดดกันเท่าไหร่นัก ตรงนี้พี่ ๆ สามารถตัดสินใจตามความต้องการของเราได้ว่าจะติดหรือไม่
แต่ถ้าหากห้องชุดที่ซื้อมานั้นมีอายุเกินกว่า 5 ปี และอยู่ฝั่งทิศตะวันตก มีส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับกระจกระเบียง และถ้าห้องนั้นเคยติดฟิล์มอยู่แล้ว น้อง Propso แนะนำว่าควรเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพราะคุณภาพของฟิล์มกันแดดจะเสื่อมไปตามอายุการใช้งานค่ะ
ข้อดีของการติดฟิล์มกันแดด จะช่วยลดอุณหภูมิห้องได้พอสมควร เพราะถึงจะมีผ้าม่านเพื่อกันแสงแล้ว แต่กระจกเป็นส่วนที่ได้รับแสงแดดโดยตรรง ความร้อนจะยังอยู่บริเวณกระจก การติดฟิล์มกันแดดจะช่วยสะท้อนแดดออกจากห้องได้บางส่วน สามารถลดอุณหภูมิในห้องได้
4.ระบบไฟต้องปลอดภัย
เรื่องไฟฟ้าและน้ำประปาแป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญในการอยู่อาศัย ต้องตรวจสอบดูว่าระบบไฟและระบบน้ำทั้งหมดพร้อมใช้งานหรือไม่ โดยเริ่มจากระบบไฟฟ้า เช็คพื้นฐานการทำงานของหลอดไฟทุกดวงภายในห้อง ตรวจสอบว่ายังใช้ได้หรือไม่ หากใช้ไม่ได้ ต้องติดต่อฝ่ายช่างของคอนโดว่าเป็นเพราะหลอดไฟเสีย หรือระบบจ่ายไฟในห้องมีปัญหา หากเป็นที่หลอดไฟหมดอายุ สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้ง่าย ๆ แต่ถ้าหากเป็นที่ระบบจ่ายไฟ ต้องให้ช่างที่คอนโดแก้ไขนะคะ
หากเป็นโครงการที่เก่ามาก ๆ ไม่มีช่างประจำนิติบุคคลแล้ว อาจจะยุ่งยากในการหาช่วง รวมถึงการตรวจสอบเต้าเสียต่าง ๆ ว่ายังใช้ได้หรือไม่ หากมีปัญหาเกิดอาการช็อต ต้องเร่งแก้ไข และในกรณีที่มีแผงควบคุมไฟฟ้า ต้องตรวจสอบด้วยเช่นกัน
5.ระบบน้ำห้ามรั่ว
การตรวจสอบเรื่องน้ำรั่ว หากเป็นห้องที่มีคนอาศัยอยู่ก่อนหน้าอยู่แล้วมักจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าหากไม่มีคนอาศัยอยู่มานาน อาจมีปัญหาเรื่องน้ำรั่วบ้างโดยไม่รู้ตัว เพราะห้องชุดที่ไม่ได้อยู่อาศัยนาน ส่วนใหญ่นิติบุคคลจะตัดสินใจปิดวาล์วน้ำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องน้ำรั่วภายในห้องชุดนั้น ๆ จนก่อความเสียหายให้กับห้องอื่น ๆ เช่น น้ำรั่วออกมาจนถึงโถงลิฟต์ เป็นต้น
ในเบื้องต้นให้เราติดต่อนิติบุคคลเพื่อเปิดวาล์วน้ำ แล้วสำรวจทุกก๊อกน้ำว่ามีปัญหาน้ำรั่วหรือไม่ ถ้ามีต้องเร่งแก้ไข เพราะอาจเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้
6.ห้องน้ำคือส่วนสำคัญ
ห้องน้ำเป็นห้องที่สำคัญไม่แพ้ห้องอื่น ๆ ดังนั้นต้องตรวจสอบให้ดี โดยห้องร้ำจะสัมพันธ์กับเรื่องการตรวจระบบน้ำ แต่จะมีสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมา นั่นคือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำ เช่น สุขภัณฑ์ สายชำระ ฝักบัวอาบน้ำ ก๊อกน้ำ และเครื่องระบายอากาศ ต้องตรวจสอบว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
หากอุปกรณ์เหล่านี้ยังสามาใช้งานได้อยู่ ให้ประเมิณตามมสภาพ หากมีสภาพเก่าเกินไป โดยเฉพาะห้องชุดที่มีอายุมากกว่า 5 ปี ควรเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ หลายราคา ทำให้ใช้ต้นทุนไม่สูงมาก
7.มุมครัว ปรับให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ข้อนี้ในส่วนของคอนโดมือสองอายุนานแล้ว บางห้องก็มี บางห้องก็ไม่มี เพราะปล่อยให้เป็นพื้นที่โล่ง ๆ ไม่ได้แบ่งสัดส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนคอนโดยุคใหม่ แต่ถ้าพี่ ๆ เป็นคนชอบทำอาหาร และอยากมีมุมครัวภายในห้องชุด ควรตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ยังใช้งานได้หรือไม่ ดูเรื่องระบบไฟฟ้าว่ามีไฟรั่วตรงไหนหรือเปล่า ไฟช็อตมั้ย ถ้ามีต้องเร่งแก้ไขค่ะ
แต่หากพี่ ๆ ไม่ได้เป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหารเท่าไหร่นัก เราจะนำมุมนี้ออกไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นมุมครัวจริงจัง มีเพียงไมโครเวฟสำหรับอุ่นอาหาร กับตู้เย็น ก็อาจจะเพียงพอแล้ว
เห็นได้ว่าการซื้อคอนโดมือสองมีหลายจุดที่เราต้องพิจารณา ตรวจสอบ และแก้ไข โดยเฉพาะ 4 เรื่องใหญ่อย่างระบบไฟฟ้า น้ำประปา ห้องน้ำ และห้องครัว เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการอยู่อาศัย หรือพี่ ๆ คนไหนกำลังสนใจซื้อคอนโดมือสองเพื่อปล่อยเช่า การปรับปรุงห้องให้ดูใหม่อยู่เสมอจะช่วยเพิ่มอัตราค่าเช่าได้ และมีโอกาสปล่อยเช่าได้เร็ว
วันนี้น้อง Propso ต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับพี่ ๆ ที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดมือสองอยู่ บทความหน้าจะเป็นเรื่องอะไร อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า บ๊ายบายค่า
ดู 10 คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย