จัดฮวงจุ้ยโฮมออฟฟิศ งานดี เงินปัง! ไม่ใช่สายมูก็ทำได้

 

จัดฮวงจุ้ยโฮมออฟฟิศ งานดี เงินปัง! ไม่ใช่สายมูก็ทำได้

 

 

    จะทำธุรกิจยังไงก็ต้องเลือกสถานที่ตั้งของออฟฟิศให้ดี นอกจากเป็นหน้าเป็นตาให้บริษัทแล้ว สภาพแวดล้อมต้องเอื้อต่อการนั่งทำงานนาน ๆ เพื่อให้เราสามารถนั่งทำงานได้อย่างราบรื่น ผลงานออกมาก็มีคุณภาพ วันนี้น้อง Propso จะมาบอกเคล็ดลับ “จัดฮวงจุ้ย” ออฟฟิศยังไงให้งานดี เงินปัง!

 

เลือกองศาทิศทางที่ดี

 

 

    เมื่อเราได้โฮมออฟฟิศที่ถูกใจแล้ว เราไม่ควรมองข้ามทิศทางของอาคารที่หน้าบ้านเราหันออกไปด้วย เพราะทิศทางบ้านหันหน้าออกไปถือเป็นที่เรื่องที่สำคัญมาก! ทั้งในมุมมองของศาสตร์ฮวงจุ้ย และในมุมมองของสถาปัตยกรรม เพราะประตูทางเข้าถือเป็นช่องเปิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของตัวอาคาร ทิศทั้ง 4 เหนือ ใต้ ออก ตก ในทุก 4 ทิศทางหลักนั้นจะมีทั้งทิศที่ดีและไม่ดี และการหันหน้าออกทางทิศใต้ไม่ได้แปลว่าไม่ดีเสมอไป การเลือกทิศทางที่ดีนั้นต้องให้เข้ากับดวงชะตาของธุรกิจที่ทำ ลักษณะที่ดิน ดวงชะตาของสมาชิกภายในบ้านอีกด้วย

 

สร้างสิ่งกระตุ้นพลังงาน

 

 

    เมื่อเราเจอทิศทางที่เป็นทิศแห่งโชคลาภของธุรกิจเราแล้ว เราสามารถกระตุ้นพลังงานได้โดยการสร้างสิ่งเคลื่อนไหวได้นะ เช่น ต้นไม้มงคล เหรียญจีน เต่ามังกร แมวนำโชค สำเภาแห่งความร่ำรวย เพื่อเสริมถึงเงินทอง ความมั่งคั่ง ให้เข้ามาภายในบ้าน และใช้ปลาที่เป็นสัญญาลักษณ์ดึงดูดพลังความร่ำรวยเงินทอง ตกแต่งโฮมออฟฟิศของเราด้วยปลา ไม่ว่าจะเป็นปลาคราฟ ปลามังกร เป็นต้น

 

    ใช้อัญมณีตกแต่งออฟฟิศเป็นสัญญาลักษณ์ดึงดูดความมั่นคง โดยแร่ไพไรต์ เป็นแร่อีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความนิยม หรือจะใช้อัญมณีที่พี่ ๆ ชอบ มาวางไว้ที่ตำแหน่งการเงินของออฟฟิศได้เช่นกัน สุดท้าย ตกแต่งโฮมออฟฟิศด้วยน้ำพุ ที่เป็นสิ่งที่แสดงถึงพลังทางด้านการเงินที่ดีและแข็งแรง ถ้าเราไม่มีน้ำพุ สามารถใช้น้ำตกแทนก็ได้นะ

 

จัดแบ่งพื้นที่สาธารณะกับพื้นที่ส่วนตัว

 

 

    แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนง่าย ๆ คือ 1. เป็นทั้งที่พักและที่ทำงาน ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่าตำแหน่งที่นิ่งควรจะเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนตำแหน่งที่พลุกพล่านควรจะเป็นสำนักงาน ดังนั้นการแบ่งแยกชั้นบนสุดของอาคารควรเป็นที่อยู่อาศัย และชั้นอื่น ๆ เป็นที่ทำงาน หรือ 2. ปรับเปลี่ยนบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศเต็มรูปแบบ แน่นอนว่าจะไม่มีคนพักอาศัยที่นี่ ดังนั้นชั้นบนสุดควรเป็นชั้นของผู้บริหาร และห้องประชุม หากเราแบ่งได้ตามนี้ ก็จะทำให้พลังงานถูกจัดสรร แบ่งแยกอย่างชัดเจนนั่นเองค่ะ ^^

 

การจัดโต๊ะทำงานของผู้บริหาร

 

 

    ห้องทำงานของผู้บริหารควรจัดให้ห่างจากประตูสำนักงานในลักษณะเฉียงกับประตูทางเข้า โดยจะอยู่มุมซ้ายหรือมุมขวาของบ้านก็ได้ เพราะสองมุมนี้เป็นมุมของพลังและอำนาจ ทั้งยังอยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นและควบคุมการทำงานของพนักงานได้เป็นอย่างดี เป็นมุมที่ทำให้มีสมาธิในการทำงาน มีอำนาจตัดสินใจ และมีโชคลาภ

 

    ส่วนด้านหลังโต๊ะทำงานของผู้บริหารควรเป็นผนังทึบ ไม่ควรมีหน้าต่างหรือกระจก ในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะขาดการเกื้อกูลและปกป้อง ทำให้เสียโอกาส นอกจากนี้แล้วหากภายนอกตัวบ้านมีเหลี่ยมมุมของบ้านหรือตึกอื่น ๆ ทั้งหลังคา หรือป้ายโฆษณาที่เล็งตรงมา ควรแก้ไขด้วยการนำผ้าม่านปิดและติดลูกแก้วเจียระไนแขวนบริเวณตำแหน่งที่ถูกเล็งมา เพื่อช่วยสะท้อนพลังทิ่มแทงและเปลี่ยนให้เป็นพลังที่ดี

 

การจัดโต๊ะทำงานของพนักงาน

 

 

    โต๊ะทำงานของพนักงานควรจัดให้อยู่ในแนวเฉียงจากประตูทางเข้า โดยจัดให้อยู่ด้านหน้าของโต๊ะหัวหน้า เพื่อให้หัวหน้าสามารถควบคุมดูแลการทำงานของพนักงานได้อย่างเต็มที่ และควรจัดโต๊ะหันไปในทิศทางเดียวกัน ห้ามหันหน้าชนกัน เพราะจะทำให้เกิดแรงขับทำให้เกิดความกดดันในการทำงาน

 

    แล้วการจัดโต๊ะพนักงานที่ไม่เหมาะ คืออะไรล่ะ? พี่ ๆ คงมีคำถามเหล่านี้ใช่มั้ยคะ การจัดโต๊ะที่ไม่เหมาะในทางฮวงจุ้ย เช่น จัดโต๊ะทำงานกีดขวางทางเดินของผู้บริหาร หรือจัดโต๊ะเข้าหันเข้าหาเสา กำแพง หรือเหลี่ยมมุมต่าง ๆ จัดโต๊ะทำงานหันหลังให้ประตูทางเข้าออก เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์และขนาดสมาธิในการทำงาน

 

    และการจัดโต๊ะทำงานใกล้ประตูมากเกินไป ทำให้ว่อกแว่กและไม่ตั้งใจในการทำงาน เป็นเหตุทำให้หยุดงานบ่อย ๆ หรือจัดโต๊ะทำงานตรงกับประตูห้องน้ำ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้กระถางต้นไม้ตั้งคั่นตรงกลาง ระหว่างโต๊ะทำงานและประตูห้องน้ำค่ะ

 

แสงสว่างที่เพียงพอ

 

 

    สิ่งที่สำคัญทั้งในทางฮวงจุ้ยและการทำงาน คือ แสงสว่างที่เพียงพอ เพราะแสงสว่างจะส่งผลให้การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตำแหน่งพักคอยควรจะสว่างเป็นพลังงานหยางทำให้เกิดความสดชื่น อาจจะใช้แสงสว่างจากโคมไฟ หลอดไฟ หรือช่องแสงก็ได้ค่ะ และตำแหน่งโต๊ะทำงาน หลอดไฟควรจะส่องลงมาตรงตำแหน่งโต๊ะทำงาน ไม่ควรส่องลงมาตำแหน่งของคน 

 

    ควรใช้แสงให้เหมาะสม ทั้งแสงขาว (Daylight) หรือแสงสีเหลือง (Warm light) ล้วนมีผลทั้งนั้น เช่น ตำแหน่งพักคอยควรสว่างด้วยแสงสีเหลือง ส่งผลให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ไม่ร้อนจนเกินไป ส่วนบริเวณโต๊ะทำงานในแผนกต่าง ๆ หรือห้องประชุม ควรใช้แสงขาวจะเหมาะที่สุดค่ะ

 

อากาศถ่ายเทได้สะดวก

 

 

    ลมเป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้เกิดอารมณ์ขึ้น ลง ช้า เร่งรีบ มีความสุข หม่นหมอง ในโฮมออฟฟิศที่มีเครื่องปรับอากาศที่ปรับอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่เย็นเกินไป ไม่ร้อนเกินไป จะทำให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข ซึ่งสอดคล้องกับความสำคัญของฮวง (แปลว่า ลม) ในภาษาฮวงจุ้ยนั่นเอง

 

    และเพื่อให้โฮมออฟฟิศนำพาความสำเร็จ ความรุ่งเรือง และผลกำไร ควรพิถีพิถันในการเลือกรูปภาพ สีที่ใช้ควรเลือกตามศาสตร์ฮวงจุ้ย (สีแต่ละสีส่งผลทางอารมณ์แตกต่างกันไป) เครื่องมือเครื่องใช้ที่มีความหมายเกี่ยวกับอาชีพการงานที่ทำอยู่ รวมถึงของตกแต่งมงคลที่ตระหนักถึงความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ และความสุข

 

การตกแต่งภายใน

 

 

    ฝ้าเพดานภายในควรเป็นแบบฉาบเรียบจะดีที่สุด และติดไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอ นอกจากจะช่วยเรื่องของการมองเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยทำให้บรรยากาศในการทำงานเกิดความคึกคัก มุมในซ้ายสุดของโฮมออฟฟิศควรตั้งกระถางต้นไม้ 2 ต้น หรือแจกันดอกไม้ 1 คู่ โดยจัดให้สวยงามและสะอาด และตำแหน่งตรงข้ามประตูทางเข้า ซึ่งเป็นตำแหน่งของประธานของสถานที่ ควรประดับด้วยรูปที่มีความหมายเป็นมงคล โดยจัดแต่งให้ดูมีพลัง สง่า สวยงาม

 

    รูปทรงโต๊ะทำงานควรเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือหากต้องการวางของบนโต๊ะจำนวนมาก สามารถใช้โต๊ะรูปตัวแอลได้เช่นกัน การใช้สี ความใช้สีโทนอ่อน ดูเย็นสบายตา ซึ่งสีแต่ละสีมีความหมายต่างกัน เช่น สีแดง คือ ธาตุไฟ หมายถึงความกระตือรือร้น พลังแห่งความทะเยอทะยาน ความกล้า สีเขียว คือ ธาตุไม้ หมายถึง ความสงบเย็น การเจริญเติบโต สีเหลือง สีน้ำตาล สีเทาอ่อน และสีส้ม คือ ธาตุดิน หมายถึง ปัญญาความรู้ ความอดทน เหตุผล สีขาวหรือวัตถุแวววาว คือ ธาตุทอง หมายถึง ความบริสุทธิ์ การเริ่มต้น สีฟ้าครามหรือสีน้ำเงิน คือ ธาตุน้ำ หมายถึง การปรับตัว การแทรกซึม การติดต่อสื่อสาร เป็นต้น

 

    เป็นยังไงบ้างคะพี่ ๆ พอจะมีไอเดียแต่งโฮมออฟฟิศกันบ้างแล้วใช่มั้ยคะ จริง ๆ แล้วการจัดฮวงจุ้ยออฟฟิศ นอกจากจะเป็นความเชื่อแล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างราบรื่นมากขึ้น สมองปลอดโปร่ง คิดงานได้ดีมากขึ้น ไม่ใช่ทำไปเพียงเพราะความเชื่ออย่างเดียวเท่านั้น น้อง Propso ถึงบอกว่าไม่ใช่สายมูก็ทำได้!

 

    วันนี้น้อง Propso ต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ บทความหน้าจะมีเรื่องดี ๆ อะไรมาแชร์อีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ บ๊ายบาย! ^__^//